TimeWaver

TimeWaver Frequency & Pro

         เพื่อให้สามารถบำบัดทั้ง 6 ด้านของชีวิตอย่างเป็นองค์รวม  เราจึงนำเทคโนโลยีควอนตัมของ TimeWaver ทั้งหมดมาใช้ร่วมกัน  เพื่อตอบโจทย์ทั้ง 6 ด้านของชีวิต

         ในการบำบัดด้านกายหยาบ (physical body)  จะใช้คลื่นความถี่ Micro-current ผ่านเครื่อง TimeWaver Frequency  โดยมีระบบ Information Field ในการตรวจวิเคราะห์ และบำบัดอาการ  ทั้งที่มองเห็น, รู้สึกได้ หรืออาจจะมองไม่เห็น ไปพร้อมกัน  ซึ่งต้องมาบำบัดด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

         สำหรับกายละเอียด หรือพลังงานที่มองไม่เห็น  จะใช้เครื่อง TimeWaver Pro ที่ทำงานผ่านระบบควอนตัมโดยตรง  ทำให้จิตใต้สำนึกที่มองไม่เห็น  สามารถสะท้อนภาพ และมุมมองออกมาให้เป็นรูปธรรม  พร้อมกับปรับสมดุลด้วยการส่งคลื่นทางไกลตลอดเวลา  จนกว่าอาการจะดีขึ้นหรือหาย โดยไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเอง

สุขภาพดีเริ่มต้นที่เซลล์

         นักเซลล์วิทยา Dr. Robert O. Becker และ Dr. Björn E.W. Nordenström, MD อดีตประธานคณะกรรมการรางวัลโนเบล  ได้ค้นพบว่า โรคเฉียบพลัน และเรื้อรังเกือบทั้งหมด  อาจเกิดจากแรงดันไฟฟ้าของเยื่อหุ้มเซลล์ลดลง

         ตามแบบจำลองของพวกเขา  คนเราจะมีสุขภาพแข็งแรง พอๆกับเซลล์และการสื่อสารระหว่างเซลล์   ดังนั้น สุขภาพของเซลล์จึงสามารถเชื่อมโยงกับพารามิเตอร์ง่ายๆ  นั่นคือ แรงดันเยื่อหุ้มเซลล์ไฟฟ้า

         ตามหลักการของ Becker และ Nordenström  เซลล์ต้องมีแรงดันไฟฟ้าอย่างน้อย -70 mV  จึงจะมีพลังงานเพียงพอต่อการดำรงชีวิต และสื่อสารกับเซลล์อื่นๆ   ในช่วงที่เกิดโรค  แรงดันไฟฟ้านี้ มักจะลดลงเป็น -50 mV   ในกรณีของแรงดันไฟฟ้า -40 mV  จะเกิดความเจ็บปวดและอักเสบขึ้น   เมื่อลดลงมาที่ -15 mV  เป็นเกณฑ์ที่เซลล์ สามารถกลายพันธุ์เป็นเซลล์เนื้องอกได้  

เทคโนโลยี ที่สร้างขึ้นสำหรับ  TimeWaver Frequency (TWF)

ทั้งสองได้ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์ TimeWaver Frequency ในการตรวจจับการรบกวนในสนามข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย และปรับความสมดุลด้วยการใช้ความถี่ที่แม่นยำและกระแสความถี่ต่า (Micro-current) ทําให้ TWF สามารถช่วยอาการต่างๆ รวมถึงความเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจ, ความวิตกกังวล, การเสพติด, ปัญหาหัวใจหลอดเลือด รวมถึงสนับสนุนการเรียนรู้ และอื่นๆ อีกมากมาย

 

การทำงานของ Time Waver Frequency (TWF)

คุณภาพเซลล์สะท้อนคุณภาพของชีวิต

         การลดลงของแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า-70mV ของเยื่อ หุ้มเซลล์ เป็นสาเหตุสำคัญของโรคเกือบทั้งหมด    การทำงานด้วย TWF มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรดนอกเซลล์ และฟื้นฟูแรงดันไฟฟ้าตามรรรมชาติของเยื่อหุ้มเซลล์ให้กลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง จากการผลิต ATP เพิ่มถึง 500% โดยใช้ Micro-current Frequency เพื่อให้พลังกับทุกส่วนของร่างกายได้เต็มที่

ทำงานด้วยพลังควอนตัม (Information Field)

         ก่อนทำงาน  ระบบจะตรวจเช็คความผิดปกติของอวัยวะ และภาวะจิตใจ รวมทั้งสารอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ที่พร่องไป เพื่อเป็นข้อมูลในการทำงาน   ส่วนข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมาจะได้รับการปรับสมดุลผ่านระบบคลื่นที่ส่งออกไปพร้อมๆ กัน

แนวคิดแบบองค์รวม

         เทคโนโลยีควอนตัมของ TWF จะวิเคราะห์สาเหตุที่เกิดของอาการและเชื่อมโยงเชิงลึกทั้งในระดับกายภาพ และจิตใจ เพื่อให้เกิดผลสูงสุดในทางบวก ผ่านสนามข้อมูลและคลื่นความถี่ที่ถูกต้องและแม่นยำ ช่วยย่นระยะเวลาในการทำงานให้สั้นลงได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

การวิเคราะห์เชิงลึก

         ระบบจะวิเคราะห์คลื่นความถี่ที่จะใช้อย่างต่อเนื่อง และส่งต่อไปยังผู้รับบริการผ่านอิเล็คโทรดคลื่นความถี่ที่อยู่ในรูปแบบของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีฐานข้อมูลมากกว่า 1,000 รายการ บรรจุคลื่นความถี่ไว้กว่า 150,000 คลื่น เพื่อใช้ในการปรับสมดุลให้กับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายตามอาการที่แพทย์แผนปัจจุบันระบุไว้

ก่อนและหลังบริการ (Realtime & Resonance)

         เพื่อเตรียมร่างกายให้เข้าสู่ภาวะของความสมดุล   ระบบจะวิเคราะห์และค้นหาคลื่นความถี่ที่ร่างกายต้องการด้วย 3 ขั้นตอน เริ่มต้นและปิดท้ายด้วย Realtime คั่นด้วย Resonance เพื่อปรับสมดุล   จัดการเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งปรับสภาวะจิตใจให้ผ่อนคลาย ทั้งก่อนและหลังการรับบริการ

ข้อมูลบ่งชี้ (Indication)

         การทำงานของ TWF ควบคุมด้วยพลังควอนตัม   ระบบจะกำหนดความถี่ที่จะใช้และปรับให้เข้ากับความต้องการสูงสุดสำหรับอาการนั้นๆ ตลอดเวลาของการรับบริการทั้งแบบอัตโนมัติหรือเลือกเองได้    สามารถอ้างอิงอาการของโรคได้ตามแพทย์แผนปัจจุบัน

 

อาการที่ช่วยได้

         TWF มีโปรแกรมเพื่อช่วยอาการเจ็บปวด, โรคไม่ติดต่อ (NCDs), อาการบาดเจ็บ, โรคผิวหนัง, โรคเกี่ยวกับระบบประสาท, อาการป่วยทางจิต   นอกจากนั้น ยังมีคลื่นที่ช่วยปรับสมดุลระบบประสาท หรือ ระบบหัวใจและหลอด, เลือด, การติดเชื้อ และอื่นๆ อีกมากมาย ดังต่อไปนี้

 

โรคไม่ติดต่อ (NCDs)

         TWF ช่วยกระตุ้นสารสื่อประสาทและสมดุลของฮอร์โมน    ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงด้วยการปรับสภาพแวดล้อมของเซลล์เพื่อการสังเคราะห์โปรตีนและผลิต ATP รองรับอาการต่อไปนี้

• โรคเบาหวาน

• ปัญหาการเผาผลาญและขับถ่าย

• โรคตับ (ตับอักเสบ, ตับแข็ง ฯลฯ)

• โรคไต

• ปัญหากระเพาะอาหารและลำไส้

• การขับสารพิษที่เกิดจากแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส

• ระบบภูมิคุ้มกัน

• ต่อมไร้ท่อต่าง ๆ

 

ความเจ็บปวด

         ความเจ็บปวดเป็นสัญญาณเตือนว่า บางส่วนของร่างกายกำลังได้รับอันตราย    การใช้ TWF ช่วยสร้างความสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในระดับเซลล์  โดยช่วยขัดขวางการส่งต่ออาการเจ็บไปยังสมอง   ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท   ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ, ตะคริว และ อาการเกร็งได้    ช่วยอาการปวดดังต่อไปนี้ :

• ปวดเรื้อรังหรือเฉียบพลัน

• ปวดกล้ามเนื้อ

• ปวดศีรษะไมเกรน

• ปวดข้อหรือข้อเข่าเสื่อม

• ปวดหลัง

• ปวดกล้ามเนื้อ

• ปวดฟัน

• ปวดประจําเดือน

 

อาการบาดเจ็บ

         การใช้ TWF ช่วยการอักเสบด้วยการช่วยเซลล์ที่บาดเจ็บให้คืนสภาพเร็วขึ้น   ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ, กระดูก หรือเส้นเอ็น ให้มีความแข็งแรงขึ้น    นอกจากนั้น ยังช่วยในบาดแผล, แผลไฟไหม้, กระดูกหัก, อาการบวมช้ำ, กระดูกร้าว, อัมพฤกษ์, อัมพาต และการเกร็งของกล้ามเนื้อ รวมทั้งการอักเสบภายในร่างกายที่มีสาเหตุจากความผิดปกติ

 

 

ผิวหนัง

 

         ผิวของเราปกป้องร่างกาย, ช่วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของเรา    จากการวิจัย การใช้ TWF ช่วยเรื่องเซลลูไลท์, การสร้างคอลลาเจน เพื่อปรับผิวให้เรียบ และการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อของแผลเป็นหรือเซลล์ผิวหนังขึ้นมาใหม่   รวมถึงช่วยเรื่องการติดเชื้อที่ผิวหนัง, สิว หรือโรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น

 

 

โรคทางระบบประสาท - สมอง และเส้นประสาท

 

         อาการทางระบบประสาทหลายอย่าง เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทอัตโนมัติ   การใช้คลื่นความถี่และกระแสไฟฟ้าความเข้มต่ำ ช่วยให้โรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือพาร์กินสัน ดีขึ้นได้   นอกจากนั้น ยังช่วยในอาการทางระบบประสาท

 

ดังต่อไปนี้ :

 

• โรคอัลไซเมอร์

 

• โรคประสาทอักเสบ

 

• หูอื้อ

 

• ปลอกประสาทเสื่อม

 

• ความจําและสมาธิดีขึ้น

 

 

อาการป่วยทางจิต

 

         TWF ช่วยให้ผู้รับบริการรับรู้ถึงความรู้สึกที่ดีขึ้น จากการช่วยสมองในการสร้างสารสื่อประสาท เช่น โดปามีน หรือผ่านการสร้างสมดุลอิเล็กโทรไลต์ในเนื้อเยื่อ สามารถช่วยอาการป่วยทางจิต ดังต่อไปนี้ :

 

• ซึมเศร้า

 

• ความเครียด

 

• นอนไม่หลับ

 

• ความบกพร่องในการเรียนรู้ (ในกรณีของอัลไซเมอร์)

 

• ถอนนิโคติน หรือสารเสพติด

 

• อาการอ่อนล้าและเหนื่อยหน่าย

 

• ความวิตกกังวล

 

• ความก้าวร้าว

 

  • ช่วยเพิ่มสมาธิ

 

 

ระบบหัวใจและหลอดเลือด

 

         โรคที่เกิดจากระบบหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบบ่อยที่สุด รองลงมาจากโรคมะเร็ง    TWF มีโปรแกรมที่ช่วยสนับสนุนการควบคุมความดันโลหิตและดูแลการไหลเวียนโลหิต

 

• ช่วยในการดูดซับออกซิเจน

 

• ปรับปรุงความหนืดของเลือดเพื่อช่วยในการอุดตันและป้องกันโรคหัวใจ

 

• ปรับสมดุลความดันโลหิตสูง

 

• เพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของหัวใจและปอด

 

• ขจัดสารพิษในเลือด

 

• เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย

 

 

การติดเชื้อ

 

         ปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลข้างเคียงหรือการดื้อยาปฏิชีวนะ     TWF สามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะ ด้วยการใช้กระแสและความถี่ที่เหมาะสม  

 

The TimeWaver Frequency McMakin System ระบบแมคมาคิน

         Frequency Specific Micro-current หรือ FSM เป็นวิธีการทางไฟฟ้าที่ใช้ประมาณ 1 ใน 1,000 ของกระแสที่ใช้ใน TENS; กระแสที่ใช้อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์การรับรู้ และมีระดับพลังงานใกล้เคียงกับที่ร่างกายสร้างขึ้นเองในแต่ละเซลล์และแต่ละเนื้อเยื่อ      ร่างกายมนุษย์เป็นระบบควอนตัมชีวภาพ ประกอบด้วยอะตอม, โมเลกุล และอนุภาคย่อยของอะตอม ทั้งหมดถูกยึดเข้าด้วยกันโดยแม่เหล็กไฟฟ้า มีความถี่เรโซแนนซ์ในทุกการเชื่อมต่อ      ร่างกายของเราเป็นระบบแม่เหล็กไฟฟ้า และเซลล์ของเราทําหน้าที่เป็นเครือข่ายเช่น เดียวกับเซมิคอนดักเตอร์

 

         Dr. Carolyn McMakin เริ่มคุ้นเคยกับโลกการแพทย์ ในช่วง 16 ปีที่เธอเป็นตัวแทนบริษัทยา จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเส้นทางชีวิตไปเรียนต่อเพื่อเป็นหมอจัดกระดูก (Chiropractor)   และในขณะที่เธอกำลังจัดตั้งคลินิกเพื่อรักษาผู้คน   Dr. McMakin ได้ซื้ออุปกรณ์ทําบัดด้วยกระแสไฟอ่อนๆ ซึ่งมีอายุเกือบ 100 ปี ตั้งแต่ปี 1922 (เป็นยุคที่การบำบัดด้วยเครื่องมือไม่ได้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในสหรัฐอเมริกา)   เธอได้พบรายการความถี่และเอฟเฟกต์ที่ซ่อนอยู่ในเครื่อง   เป็นขุมทรัพย์ที่เธอได้ค้นพบอย่างน่าอัศจรรย์

         จากรายการความถี่นี้เอง Dr. McMakin เริ่มทําการรักษาผู้ป่วยผ่านเครื่องนี้ และได้รับประสบการณ์อันมีค่าจากเทคนิคนี้อย่างรวดเร็วและประสบความสําเร็จอย่างล้นหลาม

         Dr. McMakin จึงได้เริ่มกิจกรรมการสอนและฝึกอบรมให้กับนักบำบัดคนอื่นๆ พร้อมทั้งจัดตั้งคลินิกบำบัดความเจ็บปวดของเธอเองในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน

         ปัจจุบัน Dr. McMakin เป็นผู้นำและผู้พัฒนา FSM   เธอยังคงทําการรักษาอยู่    นอกจากนั้น ยังเข้าร่วมในการวิจัยและสอนการสัมมนาที่เกี่ยวกับการใช้ FSM ในสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ยุโรป และเอเชีย

 FSM ใช้เพื่ออะไร?

         TimeWaver ร่วมกับ Dr. McMakin ได้พัฒนาระบบ Frequency McMakin ซึ่งมีขั้นตอนการบำบัดด้วย FSM (Frequency Specific Micro-current) แบบอัตโนมัติมากกว่า 120 โปรแกรม จากประสบการณ์ของ Dr. McMakin     การใช้ความถี่ที่ถูกต้องสำหรับอาการบาดเจ็บและสภาวะผิดปกติต่างๆ ในร่างกาย สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่าง น่าอัศจรรย์

 

อาการที่ช่วยได้

• ปวดเส้นประสาท

• ไฟโบรมัยอัลเจีย

• ปวดกล้ามเนื้อ

• สมรรถภาพทางกีฬา

• บาดเจ็บจากเอ็นกล้ามเนื้อฉีก

• บาดเจ็บจากการถูกกระทบกระแทก

• ปวดคอ ปวดข้อ ปวดหลังส่วนล่าง

• ปวดนิ่วในไต

• บาดแผลจากเบาหวาน

• อาการบาดเจ็บที่สมองและไขสันหลัง

• เนื้องอกประสาทหู

• งูสวัด

• หอบหืด

• ซีสต์ของรังไข่

• การยึดเกาะในช่องท้อง

• รอยแผลเป็น

• ฝ่าเท้าอักเสบ

• อาการลำาไส้แปรปรวน

• แผลจากไฟไหม้

• ปวดกระดูก กระดูกหัก

 

         มีงานวิจัยที่รองรับการรักษาด้วย Micro-current หรือ Electromagnetic หรือ Electro Therapy ที่ตีพิมพ์ ในต่างประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย ดังต่อไปนี้

 

1. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย: การรักษาอาการปวด

 • ปวดเรื้อรัง

 • ปวดเฉียบพลัน

 • ปวดศีรษะและไมเกรน

 • โรคข้อเข่าเสื่อม

 • อาการปวดข้อ

 • ความเจ็บปวดโดยทั่วไป: หลังผ่าตัด:

 • ปวดหลัง

 • เจ็บกล้ามเนื้อ

 

2. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย : ด้านจิตใจ

 • ซึมเศร้า

 • วิตกกังวล

 • ความเครียด

 • ก้าวร้าว

 • นอนไม่หลับ

 • การขาดสมาธิ

 • ความสามารถในการเรียนรู้

 • พัฒนาความจํา

 • การเลิกบุหรี่

 

3. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย : การติดเชื้อโรคงูสวัด

 

4. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย : ระบบประสาท

 • อัลไซเมอร์

 • Tinnitus (โรคหูอื้อ)

 • Stroke (โรคหลอดเลือดสมอง)

 • พัฒนาการของระบบสมองที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ของโรคพาร์กินสัน

 • พาร์กินสัน (ความเจ็บปวด และการพักฟื้น)

 • โรคประสาทอักเสบ

 • โรคลมชัก (Epilepsy)

 • หลายเส้นโลหิตตีบ  (โรคปลอกประสาทเสื่อมหรือโรคเอ็มเอส)

 

5. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย : เกี่ยวกับผิวหนัง

 • การติดเชื้อที่ผิวหนัง

 • Psoriasis (โรคสะเก็ดเงิน)

 • Hyperhidrosis (เหงื่อออกมาก)

 

6. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย : การรักษาการบาดเจ็บและบาดแผล

 • การรักษาแผล และแผลจากไฟไหม้

 • ลดอาการปวด

 • อาการบวมนํ้า (Edema)

 

7. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย : โรคหัวใจและหลอดเลือด

 • ความดันโลหิตสูง

 

8. การศึกษาและรายงานผู้ป่วย : อายุรศาสตร์

 • เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, บาดแผลเรื้อรัง

 • โรคเกี่ยวกับตับ (ตับอักเสบ, ตับแข็ง ฯลฯ)

 • แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น

 

         หมายเหตุ : สําหรับข้อบ่งชี้ที่กล่าวถึงในการศึกษาเหล่านี้ เป็นกรณีศึกษาที่รวบรวม ไว้เป็นกลุ่มคนและแต่ละราย ซึ่งแนะนำถึงประสิทธิภาพที่เป็นไปได้ของการบำบัด การศึกษาเหล่านี้ยังรวมไปถึง การศึกษาด้วยยาหลอกแบบสุ่ม มีการศึกษาอย่างจริงจังมากมายในด้านการนำมาใช้ตามที่อ้างถึงซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับ Gold Standard