เปิดประตูสู่มิติแห่งพลังงานและ Consciousness
เปิดประตูสู่มิติแห่งพลังงานและจิตสำนึก: Marcus Schmieke กับเทคโนโลยี TimeWaver
ถ้าคุณเชื่อว่าโลกนี้มีเพียงสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยตา... เรื่องราวต่อไปนี้จะพาคุณก้าวข้ามขีดจำกัดของความเข้าใจเดิม ๆ และเปิดประตูสู่มิติใหม่ของความจริง ระหว่าง “สสาร” กับ "Consciousness" มีสะพานหนึ่งที่มองไม่เห็น สะพานนั้นคือ “สนามข้อมูล” (Information Field) และหนึ่งในผู้บุกเบิกที่กล้าเดินข้ามขอบเขตของวิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณก็คือ Marcus Schmieke
จากนักฟิสิกส์ผู้คลุกคลีกับปรัชญาเวทในอารามของอินเดีย เขาได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก — ระบบ TimeWaver TimeWaver ไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางเทคโนโลยี แต่คือ “ประตู” สู่สนามข้อมูล ที่บันทึกทุกคำตอบของชีวิตในระดับจักรวาล
แล้ว...สนามข้อมูลคืออะไร? มันสามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างไร? และเทคโนโลยีนี้สามารถ "อ่าน" ร่างกาย จิตใจ และโชคชะตาของเราได้จริงหรือ? ทั้งหมดนี้ถูกเล่าผ่านเรื่องราวชีวิตของ Marcus Schmieke ผู้สร้างนวัตกรรม TimeWaver ซึ่งเริ่มต้นจากจุดร่วมระหว่างฟิสิกส์ ปรัชญา และการแสวงหาความจริง
เขาเกิดในปี 1966 และระหว่างการศึกษาด้านฟิสิกส์และปรัชญาในเมืองไฮเดลเบิร์กและฮันโนเวอร์ เขาได้พัฒนาวิสัยทัศน์อันลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสสารและ consciousness
ในช่วงเวลาที่เขาพำนักในอารามของอินเดีย Marcus ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งทั้งปรัชญาเวทและสถาปัตยกรรมแห่งพลังงาน ซึ่งทำให้มุมมองของเขาเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาลเปลี่ยนไปตลอดกาล แรงบันดาลใจครั้งสำคัญของเขาเกิดขึ้นเมื่อได้พบกับนักฟิสิกส์ Burkhard Heim ผู้เสนอทฤษฎีสนามแบบรวม (Unified Field Theory) ซึ่งมีพื้นฐานจากแบบจำลองจักรวาล 12 มิติ โดยเฉพาะมิติที่ 7 และ 8 ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของสนามข้อมูล
Heim เดินหน้าค้นหาคำตอบที่นักฟิสิกส์ระดับตำนานอย่าง Einstein และ Hawking เคยพยายามไข ความคิดของเขาได้กลายมาเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบ TimeWaver
ในปี 2007 Marcus Schmieke ได้พัฒนาระบบ TimeWaver รุ่นแรก โดยได้รับแรงสนับสนุนทางแนวคิดจาก Burkhard Heim, Nikolai Kozyrev นักฟิสิกส์ชาวรัสเซีย และนักวิทยาศาสตร์ท่านอื่น ๆ เทคโนโลยี TimeWaver ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า สนามข้อมูลสามารถเข้าถึง, วิเคราะห์ และปรับสมดุลได้ โดยผู้ที่มีความเข้าใจในระบบอย่างแท้จริง
หลักการสำคัญคือ การดึงข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับจิตใจและร่างกายของมนุษย์ — ทั้งด้านบวกและด้านลบ, ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน, ความปกติและความผิดปกติ — ซึ่งล้วนถูกเก็บไว้ในสนามข้อมูลของจักรวาล
Marcus เคยพบกับ Burkhard Heim หลายครั้ง และได้แลกเปลี่ยนแนวคิดอย่างลึกซึ้ง จนนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถนำทฤษฎีเหล่านั้นมาสู่การใช้งานจริงในระดับคลินิกและการบำบัด ไม่นานนัก TimeWaver ก็ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ทางเลือก, การแพทย์เสริม และถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาธุรกิจ, ความสัมพันธ์ และบุคลิกภาพ
ในหนังสือชื่อ “The Second Path: My Life in the Information Field” Marcus ได้อธิบายสนามข้อมูลในแบบที่เรียบง่ายและเข้าใจได้ทันที โดยเปรียบเทียบว่า: มนุษย์มีอยู่ 2 ส่วน — ร่างกาย และจิตใจ (consciousness) ซึ่งดูเหมือนแยกจากกันโดยสิ้นเชิง แต่ในชีวิตจริง ทั้ง 2 ส่วนนี้กลับทำงานร่วมกันได้อย่างลึกลับและซับซ้อน สิ่งที่เชื่อมโยงทั้ง 2 เข้าด้วยกัน ก็คือ สนามข้อมูล
สนามข้อมูลไม่ใช่ทั้งวัตถุ และไม่ใช่จิตใจ แต่มันคือสิ่งใหม่โดยสิ้นเชิง ที่มีคุณสมบัติของทั้ง 2 รวมอยู่ในตัวเอง มันทำหน้าที่เป็น “ล่าม” ระหว่างร่างกายและจิตใจ แปลภาษาระหว่างพลังงานและความรู้สึก สนามข้อมูลทำให้จิตใจสามารถสร้างรูปแบบที่ส่งผลต่อวัตถุ และในทางกลับกัน วัตถุก็สามารถส่งผลกลับไปยังจิตใจได้เช่นกัน หากการสื่อสารระหว่างจิตใจและร่างกายถูกขัดขวาง เราจะเจ็บป่วย แต่หากทั้งสองอยู่ในภาวะสมดุล — เราจะกลับคืนสู่ “ชีวิตที่แท้จริง”
TimeWaver จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยีทางเลือก แต่มันคือสะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์กับความรู้ที่อยู่เหนือขอบเขตของกาลเวลา
และนี่คือเพียงจุดเริ่มต้น... ของการเข้าใจพลังชีวิตในอีกระดับหนึ่งที่ลึกที่สุด